Search |  Shopping cart | หน้าแรก | ศิริสโตร์มีอะไรให้คุณ | วัตถุมงคล | วิธีการสั่งจอง-ชำระเงิน | เรื่องพระน่ารู้ | เกี่ยวกับเรา | แผนที่ตั้ง





จตุคามรามเทพ รุ่น "อุดมโภคทรัพย์"

3 สุดยอดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เด่น ดัง ขลัง ดี
5 สุดยอดพิธีครั้งแรกสายจตุคามฯ






แหวนแปดทิศ
เนื้อเงินลงยาราชาวดี บูชา 1,800 บาท





ลป.ทวด รุ่น พระธาตุเจดีย์





พระปิดตา วัดรวก (โกผ่อง)




เหรียญพลังจักรวาล รุ่นชนะมาร
บูชาเหรียญละ 1,800 บาท
(พร้อมเลี่ยมแล้ว)




พระตรีมุขคเณศ 3 เศียร





พระขุนแผนทรงพลเล็ก





กระต่ายทวีทรัพย์ ลป.ไข่
ป้องกันปรปักษ์ปี จอ





หลวงพ่อทวด ภ.ป.ร.





เสือมหาอำนาจ วัดหัวลำโพง
เนื้อนวะ บูชา 400 บาท






พระปิดตา รุ่น 700 ปีศรีวิชัย





พระพุทธชินราชเสมาย้อนยุค





พระพุทธชินราช รุ่น ธรรมจักร





ชุดพระเครื่องเบญจภาคี ภ.ป.ร.




หนุมานอุ้มดวง วัดบางกะพ้อม





จตุคามฯ มหาเศรษฐีบารมี 10 ทิศ



    

      

*** ไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น ***
  ยกเว้นวัตถุมงคลเนื้อทองคำชาร์จ 2%


รายการวัตถุมงคล (ต่อ)

7. รูปหล่อจตุคามรามเทพ หล่อโบราณเทดินไทย รุ่นแรก (Jatukarm Loy Ong)

          เอกลักษณ์การหล่อโบราณแบบครั้งโบราณกาล ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน เพราะขั้นตอน กรรมวิธี ยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายสูง
ไม่เคยจัดสร้างมาก่อน สำหรับผู้ชอบความวามอมตะแบบโบราณ ผิวไฟพระสวยมีเสน่ห์ไม่ซ้ำกัน รุ่นนี้ไม่ผิดหวัง

เนื้อเงินผสมเงินพดด้วง (Silver)
สร้าง 499 องค์ THB 2,200.-
เนื้อนวโลหะครบสูตรแก่ทองคำ (Nawa)
สร้าง 499 องค์ THB 2,200.-
เนื้อทองทิพย์ผสมทองชนวนในพิธี
สร้าง 2549 องค์ (ThongTip)
THB 400.- (หมด, sold out)
ด้านหลัง (Back)
สำหรับ!
เนื้อเมฆสิทธิ์ เมฆพัด แบบละ 599 องค์
สมนาคุณผู้สั่งจอง (กรณีเหลือ) บูชาองค์ละ THB 2,000.-

8. ล็อกเกตองค์พ่อจตุคามรามเทพ , ล็อกเกตพระพุทธสิหิงค์, ล็อกเกตพระปิดตาพังพกาฬ
     ด้านหลังบรรจุตะกรุดทองคำ ผงยาจินดามณีและพระปิดตาพังพกาฬเนื้อเงิน
     (Jatukarm Locket, Pra Puttha Sihing Locket, Pidta Locket)

ล็อกเกตพ่อจตุคามรามเทพ
(Jatukarm Locket)
เดินลายน้ำทอง (Gold Background)
สร้าง 999 องค ์(หมด, sold out)
(หักสมนาคุณผู้สั่งจอง 624 องค์ เหลือ 375 องค์)
ล็อกเกตพระพุทธสิหิงค์
(Pra Puttha Sihing Locket)
เดินลายน้ำทอง (Gold Background)
สร้าง 299 องค์(หมด, sold out)
(หักสมนาคุณผู้สั่งจอง 118 องค์ เหลือ 181 องค์)
ล็อกเกตพระปิดตาพังพกาฬ
(Pidta Locket)
เดินลายน้ำทอง (Gold Background)
สร้าง 299 องค์(หมด, sold out)
(หักสมนาคุณผู้สั่งจอง 108 องค์ เหลือ 191 องค์)
ด้านหลังล็อกเกตทั้ง 3 แบบ
(Back: Silver Pidta, 1 Gold Takrood)
  
กรรมการ Super Jumbo !!

ล็อกเกตพ่อจตุคามรามเทพเดินลายน้ำทอง สร้าง 99 องค์ THB 8,500.-(หมด, sold out)
ด้านหลัง บรรจุพระปิดตาพังพกาฬทองคำ ตะกรุดทองคำ 4 ดอก
(Back: Gold Pidta, 4 Gold Takroods)

9. เหรียญจตุคามรามเทพ - เทพยดานพเคราะห์ ลงยาราชาวดี รุ่นแรก (Jatukarm coin with colour)
     อลังการงานศิลป์ บนความศักดิ์สิทธิ์ แห่งองค์พ่อจตุคามรามเทพ

เนื้อทองคำ (Gold) THB 60,000.- (หมด , sold out)
เนื้อนวะ หน้า-หลังทองคำแท้ (Nawa with Gold Mask) THB 6,000.-
เงินลงยาราชาวดี หน้า-หลังทองคำแท้ (Silver with Gold Mask) THB 6,500.-
เงินลงยาราชาวดี (Silver) THB 2,500.-
เนื้อสามกษัตริย์ (3K) THB600.-
เนื้อทองแดง (Copper) THB 300.-


           เรื่องราวของสิบสองนักษัตร มีมาเป็นระยะเวลาช้านานตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ในตำนานของการตั้งจุลศักราชได้กล่าว
ว่าได้เริ่มใช้จุลศักราช 1 เมื่อรุ่งเช้าวันอาทิตย์ขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ปีกุน เอกศก ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 1182 จึงพอสันนิษฐานได้ว่า
ปีนักษัตร ต้องมีมาก่อนจุลศักราชเป็นแน่แท้ และมีตำนานกล่าวถึงที่มาของปีนักษัตรอยู่หลายตำนานด้วยกัน จะขอกล่าวพอสังเขป
          ในสมัยอดีตกาล สมัยของพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ในคราวครั้งนั้น ท้าวพรหมโกศีย์ ผู้เป็นใหญ่ได้เปิดฟ้าเปิดดินให้บรรดา
สัตว์น้อยใหญ่ได้มาประชุมพร้อมเพรียงกันเพื่อฟังธรรม ในคราวครั้งนั้น มีสัตว์เพียง 12 ประเภทเท่านั้นที่มาฟังธรรม ได้แก่
1. หนู 2. วัว 3. เสือ 4. กระต่าย 5. นาค 6. งู 7. ม้า 8. แพะ 9. ลิง 10. ไก่ 11. สุนัข 12. หมู
          เมื่อพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ได้แสดงธรรมจบแล้ว พระองค์พิจารณาเห็นว่าสัตว์ทั้ง 12 ประเภท มีคุณความดีตั้งใจ
ฟังธรรม จึงได้นำมาเป็นสัญญลักษณ์ในการนับเวลาใน 12 ปีนักษัตร โดยเริ่มจากหนูผู้มีความตั้งใจฟังธรรมเป็นอันดับแรก ถัด
มาเป็นวัว เสือ กระต่าย นาค จนถึงหมู ซึ่งเป็นสัตว์ที่มาฟังธรรมเป็นอันดับสุดท้าย
          ประวัติความเป็นมาของนพเคราะห์ มีตำรากล่าวได้ต่างๆนานา จะกล่าวแต่ที่ปรากฏในหนังสือเฉลิมไตรภพ ซึ่งได้กล่าว
ถึงความเป็นมาของนพเคราะห์ไว้ว่า สมัยหนึ่ง พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม พระอุมา ได้ประชุมปรึกษากันในโรงพิธีเชิง
พระสุเมรุบรรพต แล้วบังคับให้หัสวิชัย ซึ่งเป็นพสุธา กับสุนทรา ซึ่งเป็นวารี พิจารณาถึงสรรพสัตว์ที่ควรนำมาชุบเป็นเทวดา
นพเคราะห์ พสุธากับสุนทราจึงคิดถึงบุตรของตนจำนวน 3 คน คนหนึ่งไปเกิดเป็นราชสีห์ คนหนึ่งไปเกิดในตระกูลเศรษฐี คน
หนึ่งไปเกิดเป็นโขมด ส่วนญาติทั้ง 6 เกิดเป็น มหิงสา (กระบือ) คชสาร (ช้าง) ฤาษี โค พยัคฆ์ (เสือ) และนาค ตามลำดับ อาศัย
อยู่ในหิมพานต์ มีลูกหลานสืบต่อมา พระอิศวรจึงดลใจให้มาใกล้โรงพิธี แล้วรับสั่งให้หัสดี ไปจับส่งให้แก่ สุวะกรรม นำมาถวาย
จึงทรงสร้างด้วยเทวฤทธิ์ เป็นพระเคราะห์ประจำวัน ดังนี้ คือ
          พระอาทิตย์
          พระอิศวร สร้างพระอาทิตย์ขึ้น ด้วยการเอาราชสีห์ 6 ตัวบดทำให้เป็นจุณ แล้วห่อด้วยผ้าสีแดง ประพรมด้วยน้ำอมฤต
จึงบังเกิดเป็นสุริยเทพขึ้น มีร่างกายสีแดง ทรงทิพยอาภรณ์ แพรวพราวด้วยแก้วปัทมราช ทรงพาหนะราชสีห์ รักษาเขาพระ
สุเมรุด้านทิศอีสาน พิทักษ์พระพุทธรูปปางถวายเนตร ด้วยเหตุนี้คนที่เกิดวันอาทิตย์จึงมีกำลัง 6 ตามทางโหราศาสตร์
          คนเกิดวันอาทิตย์มีนิสัยใจคอเหมือนราชสีห์ คือ เป็นคนมีนิสัยเจ้ายศ รักสวยรักงาม มีมานะ ถือตัว มีปัญญา เฉียบขาด
กล้าได้กล้าเสีย ชอบอิสระ ไม่ง้องอนใคร สีที่เป็นมงคลคือ สีแดงเป็นสิริมงคล เกิดลาภผลดียิ่งนัก รองมาสีม่วง สีเขียว ถึงเว้น
สีน้ำเงิน
          พระจันทร์
          พระอิศวรสร้างพระจันทร์จากหญิงสาวพรหมจารีในตระกูลเศรษฐี 15 นาง บางตำราว่าเป็นนางฟ้า บดทำให้ป่นแล้ว
ห่อด้วยผ้าสีเหลืองนวล ทรงทิพยอาภรณ์ด้วยแก้วประพาฬพิจิตร ทรงพาหนะม้า รักษาเขาพระสุเมรุด้านทิศบูรพา พิทักษ์พระ
พุทธรูปปางห้ามญาติ ด้วยเหตุนี้คนเกิดวันจันทร์จึงมีกำลัง 15 ตามทางโหราศาสตร์
          คนเกิดวันจันทร์ จึงมีลักษณะนิสัยเหมือนผู้หญิงคือ รูปร่างอ่อนโยน ใบหน้ารูปไข่สง่างาม น่ารัก ช่างคิด ช่างประดิษฐ์
รักสวยรักงาม หึงหวง แสนงอน เจ้าชู้ จิตใจรวนเร มีบุญบริบูรณ์ด้วยทรัพย์และยศ
          สีขาวเหลืองอ่อนๆ เป็นมงคลดีที่สุด รองมาสีเขียว ดำ กรมท่า พึงเว้นสีแดง
          พระอังคาร
          พระอิศวรได้สร้างพระอังตารขึ้นมาจากมหิงสา (กระบือ) 8 ตัว ทำให้ป่นแล้วห่อด้วยผ้าสีชมพู ประพรมด้วยน้ำอมฤต
บังเกิดเป็นพระอังคาร มีกายสีชมพู ทรงทิพยอาภรณ์ด้วย แก้วโกเมน ทรงพาหนะกระบือ รักษาเขาพระสุเมรุด้านทิศอาคเนย์
พิทักษ์รักษาพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ดังนั้นคนเกิดวันอังคารจึงมีกำลัง 8 ตามทางโหราศาสตร์
          คนเกิดวันอังคาร มีลักษณะนิสัย เป็นคนใจร้อน ใจง่าย เข้มแข็ง ว่องไวฉุนเฉียว มุทะลุ ตึงตัง ทำงานเร็ว แต่ดื้อรัน
มักถือความคิดตนเองเป็นใหญ่ ไม่ยอมใครง่ายๆ
          สีชมพูหรือแดงหลัวเป็นมงคลดี รองมาสีดำ สีกรมท่า พึงเว้นสีขาวนวล
          วันพุธ (กลางวัน)
          พระอิศวรชุบพระเทวา ด้วยคชสาร 17 เลือก บดให้ป่นแล้วห่อด้วยผ้าสีเขียว ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็นสุริย
เทพนามว่า พระพุธมีกายสีเขียวหยก ทรงพาหนะช้าง รักษาเขาพระสุเมรุด้านทิศทักษิณ พิทักษ์รักษาพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร
ดังนั้นคนเกิดวันพุธจึงมีกำลัง 17 ตามทางโหราศาสตร์
          คนเกิดวันพุธ จึงมีนิสัยอ่อนโยน มีกิริยาเรียบร้อย วาจาไพเราะอ่อนหวาน ท่าทางใจดี ยิ้มแย้มเสมอ มารยาทงดงาม
ฉลาดในการพูดจา
          สีเขียวหรือสีเขียวใบไม้เป็นมงคลดี รองลงมาสีเหลือง สีเทา พึงงดเว้นสีม่วง
          พระเสาร์
          พระอิศวรผู้เป็นเจ้า ได้สร้างพระเสาร์เทวามาจากพยัคฆ์ (เสือ) 10 ตัว บดให้เป็นจุณ ประพรมด้วยน้ำอมฤต พ่อด้วย
ผ้าสีเขียวแก่ ชุบเป็นพระเสาร์มีกายและอาภรณ์สีเขียวแก่ มีเสือเป็นพาหนะ รักษาเขาพระสุเมรุด้านทิศหรดี พิทักษ์รักษาพระ
พุทธรูปปางนาคปรก ดังนั้นคนที่เกิดวันเสาร์ จึงมีกำลัง 10 ตามทางโหราศาตร์
          คนเกิดวันเสาร์ มีนิสัยดุดุจเสือ รักเกียรติยศ ศักดิ์ศรี มีทิฐิมานะ กล้าหาญชาญชัย มักพาล ชอบคนนักเลง รักการรบ
รักสันโดษ เงียบขรึม
          สีที่เป็นมงคลคือ สีดำหลัวหรือสีม่วง รองลงมาสีเทา สีเมฆ
          พระพฤหัส
          พระอิศวรผู้เป็นเจ้า เสด็จมาชุบพระพฤหัสด้วย พราหมณ์ราชครู 19 คน บางตำราว่า พระฤาษี 19 ตน ร่ายพระเวทย์
ให้ร่างกายของพระฤาษีเป็นจุณละเอียด แล้วห่อด้วยผ้าสีแสด ประพรมด้วยน้ำอมฤต บังเกิดเป็นพระพฤหัส มีกายสีแสด ทิพย
อาภรณ์ประดับด้วยแก้วบุษราคัม ทรงกวางเป็นพาหนะ รักษาเขาพระสุเมรุด้านทิศปัจจิม พิทักษ์รักษาพระพุทธรูปปางสมาธิ
คนเกิดวันพฤหัสจึงมีกำลัง 19 ตามทางโหราศาสตร์
          คนเกิดวันพฤหัส มีนิสัยใจคอไปในทางรักสงบ มีศีลธรรมจริยธรรมอันดีงาม มีใจเมตตาเอื้ออารี รอบคอบ ระมัดระวัง
มักเป็นนักปราชญ์ นักวิชาการ สมณชีพราหมณ์
          สีที่เป็นมงคลคือ สีเหลืองไพร แสด รองลงมาสีน้ำเงิน สีแดง พึงเว้น สีดำ
          พระราหู
          พระอิศวร เสด็จมาชุบพระราหูด้วยหัวผีโขมด 12 หัว บดให้เป็นจุณ ห่อด้วยผ้าดำ ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงเกิดเป็น
สุริยเทพนามว่า พระราหู มีโขมดหรือเมฆเหมือนรูปครุฑเป็นพาหนะ มีกายและอาภรณ์สีดำ รักษาเขาพระสุเมรุ ด้านทิศพายัพ
พิทักษ์รักษาพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ด้วยเหตุนี้คนเกิดวันพุธกลางคืนจึงมีกำลังวัน 12 ตามทางโหราศาสตร์
          คนเกิดวันพุธกลางคืน (ราหู) มักมีรูปร่างอ้วนท้วม ใบหน้าใหญ่ ตาโต ริมฝีปากหนา ชอบเล่นการพนัน ตลกโปกฮา
หนักทางอบายมุข
          สีมงคลคือ สีเมฆหมอก สีเทา สีดำหลัว รองมาสีแดง ขาวนวล พึงเว้นสีเหลือง
          วันศุกร์
          พระอิศวร ได้เนรมิตรสร้างพระศุกร์จากโคอุศภะราช 21 ตัว บดให้เป็นจุณละเอียด ห่อด้วยผ้าสีน้ำเงิน ประพรมด้วย
น้ำอำมฤต บังเกิดเป็นสุริยเทพนาทพระศุกร์ มีการสีชมพู ทรงทิพยอาภรณ์ด้วยเลื่อมประภัสสร ทรงพาหนะโคอุศภะราช รักษา
เขาพระสุเมรุด้านทิศเหนือ พิทักษ์รักษาพระพุทธรูปปางรำพึง ดังนั้น คนเกิดวันศุกร์จึงมีกำลัง 21 ตัวตามทางโหราศาสตร์
          คนเกิดวันศุกร์ มีรูปร่างสมส่วน ท่าทางดี ชอบการแต่งตัว เครื่องประดับชอบการร้องรำทำเพลง
          สีที่เป็นมงคล คือ สีน้ำเงินแก่หรือสีฟ้า รองมาขาวนวล พึงเว้นสีเทา สีดำ
          พระเกตุ
          พระอิศวรเทวา ชุบพระเกตุด้วยพญานาค 9 ตัว บดให้เป็นจุณ ห่อด้วยผ้าสีทอง ประพรมด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิดเป็น
สุริยเทพนามว่าพระเกตุ มีพญานาคเป็นพาหนะ รักษาเขาพระสุเมรุตรงกลาง พิทักษ์รักษาพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งมีกำลัง
9 ตามทางโหราศาสตร์ สีเป็นมงคล คือ สีทอง รองลงมาใช้ได้ทุกสี
          ผู้ใดจำวันเกิดไม่ได้ ให้บูชาพระเกตุ เพราะเป็นจุดศูนย์กลางของเทพยดานพเคราะห์

          ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นบทสรุปโดยย่อของการสร้างเทวดานพเคราะห์ประจำวันเกิด ของแต่ละบุคคลตามทางศาสนา
พราหมณ์ เพื่อเทวดาจะได้คุ้มครองปกปักรักษาให้ผู้ที่บูชาแคล้วคลาดปลอดภัย มีความเจริญ รุ่งเรือง มีความรุ่งโรจน์ในชีวิต
การงานและการครองเรือน ในทางพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าก็ทรงตั้งพระอรหันต์ไว้ประจำทั้ง 8 ทิศเช่นกัน โดยมีองค์
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์ประธานตรงกลาง โดยเริ่มจากทิศต่างๆ ดังนี้ พระอรหันต์แปดทิศ

          พระอรหันต์แปดทิศ
          ทิศบูรพา
          พระอรหันต์ประจำทิศ ได้แก่ พระอัญญาโกณทัญญะ ซึ่งเป็นพระสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา และเป็นพระสงฆ์
ผู้สำเร็จพระอรหันต์องค์แรก ถ้าท่านใดอยากเป็นผู้ชนะก่อนใคร โบราณถือว่าต้องบูชาพระจันทร์ก่อน เพื่อเสริมส่งให้มีเมตตา
มหานิยม ให้มีความสำเร็จก่อนผู้ใด
          ตามคติของพระพุทธศาสนา จัดให้พระพุทธรูปปางห้ามญาติ เป็นพระประจำวันจันทร์ (พระพุทธรูปยืน ปางห้าม
ญาติ ยกพระหัตถ์ขวาแบอยู่ระดับหน้าอก พระหัตถ์ซ้ายห้อยอยู่ข้างตัว หรือพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร ยกพระหัตถ์ทั้ง
สองแบอยู่ระดับอก) แล้วได้จัดให้พระปริตบทยันทุน เป็นคาถาสวดสำหรับวันจันทร์ โดยสวด 15 จบ เพื่อช่วยให้เกิดโชคลาภ
คุ้มภัยอันตรายได้ และจะมีความเจริญปราศจากโรคาพยาธิทั้งปวง และยังจัดให้คาถาพระอิติปิโส 8 ทิศ บทกระทู้ 7 แบก
สำหรับสวดภาวนาประจำวันจันทร์ คือ คาถา " อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา "

          ทิศอาคเนย์
          พระอรหันต์ประจำทิศได้แก่ พระมหากัสสป เป็นพระสาวกที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นเลิศกว่าพระอื่น ถือธุดงค
วัตร เป็นพระสงฆ์ที่มีร่างกายเสมอเหมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือ มีร่างกายใหญ่โตมาก พระองค์จึงได้ประทาน
ผ้าสังฆาฎิให้กับพระมหากัสสป ถ้าท่านใดอยากได้ความเป็นใหญ่ มีผู้คนยอมรับนับหน้าถือตาก็ควรบูชาพระอังคาร ซึ่งอยู่
ประจำทิศอาคเนย์
          ตามคติทางพระพุทธศาสนา จัดให้พระพุทธรูปปางไสยยาสน์ (นอน) เป็นพระประจำวันอังคาร และพระปริตบทขัด
กรณียเมตตาสูตร เป็นคาถาสวดสำหรับพระอังคาร โดยสวด 8 จบบูชา พระปางไสยาสน์ เพื่อช่วยให้เกิดโชคลาภ และคุ้มภัย
อันตรายได้ และจะมีความสุขสวัสดีตลอดกาลนาน และยังจัดให้คาถาพระอิติปิโส 8 ทิศ บทเรียกฝนแสนห่า เป็นคาถาภาวนา
ประจำพระอังคาร คือคาถา " ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง "

          ทิศทักษิณ
          พระอรหันต์ประจำทิศ ได้แก่ พระสารีบุตร ซึ่งเป็นเอตทัคคะ ผู้เลิศทางปัญญา แม้นกำเม็ดทราย 1 กำมือ ก็สามารถนับ
ได้ ถ้าผู้ใดอยากมีปัญญาเฉลียวฉลาด มีวาจาอ่อนหวานไพเราะ บริสุทธิ์ ก็ให้บูชาพระพุธ ซึ่งชุบมาจากคชสาร
          ตามคติทางพระพุทธศาสนา จัดให้พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร เป็นพระประจำวันพุธ (กลางวัน) และจัดให้สวดบทขัด
พระปริตบทสัพพาสี เป็นคาถาสวดประจำสำหรับวันพุธ โดยสวด 17 จบ เพื่อบูชาพระปางอุ้มบาตร เพื่อช่วยให้เกิดโชคลาภ
คุ้มภัยอันตรายได้ และจะมีความสุขสวัสดียิ่งๆ ขึ้นไป และยังจัดให้คาถาพระอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์เกลื่อนสมุทร เป็นคาถา
ประจำพระพุธด้วย คือ " ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท "

          ทิศหรดี
          พระอรหันต์ประจำทิศ คือ พระอุบาลี ซึ่งเป็นเอตทัคคะในด้านการทรงพระวินัย เปรียบอยู่ในกฏระเบียบ ซึ่งถ้าผู้ใดต้อง
การให้บุตรหลานอยู่ในระเบียบวินัยไม่หลงมัวเมาในอบายมุข ก็ควรบูชาพระเสาร์
          ตามคติของพระพุทธศาสนา จัดให้พระพุทธรูปนั่งปางนาคปรก และจัดคาถายะโตหัง เป็นคาถาบทสวดสำหรับพระ
เสาร์ โดยสวด 10 จบ ตามกำลังวัน บูชาพระนาคปรกเพื่อจะได้ช่วยคุ้มกันอันตรายต่างๆ ช่วยให้เกิดโชคลาภ จะมีความสุข
ความเจริญ และเกิดความสวัสดี มีมงคลตลอดกาลนานและยังให้บทสวดพระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์คลายจักร เป็น
คาถาประจำพระเสาร์อีกด้วยคือ " โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ "

          ทิศปัจจิม
          พระอรหันต์ประจำทิศ คือพระอานนท์ ซึ่งเป็นพุทธอุปัฐาก เลขาส่วนตัวของพระพุทธเจ้า ดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่ก่อนตื่น
นอนและหลังจำวัด แม้ว่าพระพุทธองค์ไปแสดงธรรมเทศนาที่ใด ถ้าพระอานนท์ไม่ได้ไป จะต้องกลับมาแสดงธรรมให้พระ
อานนท์ฟังโดยเฉพาะอีกครั้ง ผู้ใดอยากให้บุตรหลาน ฉลาด รอบรู้ หูตากว้างไกลก็ควรบูชาพระพฤหัส พระพฤหัสชุบมาจาก
ฤาษี 19 ตน ซึ่งมีความฉลาด หลักแหลม ปัญญา ดี รอบรู้
          ตามคติของพระพุทธศาสนา จัดให้พระพุทธรูปปางสมาธิ เป็นพระพุทธรูปประจำวันพฤหัส และจัดให้สวดคาถา
บทขัดพระปริตบทปุเรนตัมโพ โดยสวด 19 จบ ตามกำลังวันบูชาพระปางสมาธิ เพื่อจะช่วยคุ้มอันตรายต่างๆ และช่วยให้
เกิดโชคลาภด้วย มีความสุขความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป และยังให้พระสวดพระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์ขว้างจักร
ตรึงไตรภพ เป็นคาถาประจำวันพฤหัสบดีด้วยคือ " ภะ สัม มัม วิ สะ เท ภะ "

          ทิศพายัพ
          พระอรหันต์ประจำทิศ คือ พระควัมปติ หรือพระสิวลี ซึ่งเป็นเอตทัคคะเลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายในเรื่องโชคลาภ ซึ่ง
ตรงกับ นพเคราะห์คือ พระราหูซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งขุมทรัพย์ทั้งหลายทั้งปวง มีอำนาจบารมีเป็นที่เกรงกลัว ผู้ใดอยากให้บุตร
หลานมีโชคลาภ บารมีต้องบูชาพระราหู ให้คอยปกปักรักษา
          ตามคติทางพระพุทธศาสนา ได้จัดให้พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ เป็นพระปางประจำราหู และกำหนดบทสวด บท
กินนุ สัน ตะ ระมาโน วะ เป็นบทสวดประจำวันพุธกลางคืน ควรสวด 12 จบ ตามกำลังวัน เพื่อบูชาพระปางป่าเลไลยก์ เพื่อ
คุ้มภัยให้สิ่งร้ายกลายเป็นดีและจะมีความสุขสวัสดี และได้จัดพระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์พลิกแผ่นดินเป็นคาถาประจำ
ราหู คือ " คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ "

          ทิศอุดร
          ตรงกับพระอรหันต์ประจำทิศ คือ พระโมคคัลลา ซึ่งเป็นเอตทัคคะในเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ตรงกับนพเคราะห์คือ
พระศุกร์ ผู้ใดอยากให้มีกิจการการค้ารุ่งเรือง ซื้อง่ายขายคล่อง พูดเป็นเงินเป็นทอง มีความสุขสบายในครอบครัวก็ควรบูชา
พระศุกร์
          ตามคติทางพระพุทธศาสนา ได้จัดให้พระพุทธรูปยืนปางทรงรำพึง พระหัตถ์ทั้งสองวางทับกันที่หน้าอก เป็นพระ
ประจำวันศุกร์และได้จัดคาถาบทขัดธชัคคสูตร เป็นบทสวดประจำพระศุกร์ โดยสวด 21 จบ ตามกำลังวันเพื่อช่วยให้เกิดโชค
ลาภ คุ้มกันภัยอันตรายใดๆ จะมีความสุขสวัสดีตลอดกาลนาน และยังได้จัดพระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทตวาดฟ้าป่าหิมพานต์
เป็นคาถาประจำวันศุกร์ คือ " วา โธ โน อะ มะ มะ วา "

          ทิศอีสาน
          ตรงกับพระอรหันต์ คือ พระราหุล ซึ่งเป็นเอตทัคคะในเรื่องของการศึกษา ใคร่ต่อการศึกษาเรียนรู้ ตรงกับนพเคราะห์
คือพระอาทิตย์ ซึ่งชุบมาจากราชสีห์ผู้ใดอยากให้บุตรหลานมีปัญญาเฉียบแหลม สติปัญญาเป็นเลิศ มีฤทธิ์ มียศ ชื่อเสียงก็ควร
จะบูชาพระอาทิตย์ และจัดให้พระปริตบทโมรปริต เป็นคาถาสวดสำหรับพระอาทิตย์ ควรสวด 6 จบ ตามกำลังวัน เพื่อให้เกิด
โชคลาภ คุ้มภัยอันตราย จะมีความเจริญรุ่งเรืองและความสุขสวัสดีตลอดกาล และยังได้จัดเอาคาถาพระอิติปิโส 8 ทิศ บท
นารายณ์แปลงรูปเป็นคาถาภาวนาสำหรับพระอาทิตย์ด้วยคือ " อะ วิ สุ นุต สา นุ ติ "

          ตรงกลาง
          มีพระเกตุอยู่ท่ามกลางจักรวาล ตรงกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นประธานของ พระอรหันต์ทั้ง 8 ทิศ เมื่อบูชา
พระเกตุเท่ากับเสริมเดช เดชานุภาพผู้ที่ไม่ทราบวันเดือนปีเกิดของตนเองควรบูชาพระเกตุ ซึ่งมีกำลังดี และจัดให้พระพุทธรูป
ปางมารวิชัย เป็นปางของพระเกตุ และให้สวดคาถาบท พุทโธ จ มัชฌิโม เสฏิโฐ เป็นคาถาประจำพระเกตุโดยสวด 9 จบ เพื่อ
คุ้มกันเสนียดจัญไร ให้แคล้วคลาดปลอดภัยและได้จัดพระคาถานวหรคุณเป็นคาถาภาวนาประจำพระเกตุ คือ " อะ ระ หัง สุ
คะ โต ภะ คะ วา "

          ซึ่งจะเห็นได้ว่าคาถาบูชาพระประจำต่างๆ นั้น ก็ถอดออกมาจากบทสวดพระพุทธคุณ 56 นั่นเอง กล่าวคือ

อิ
ติ
ปิ
โส
ภะ
คะ
วา
อะ
ระ
หัง
สัม
มา
สัม
พุท
โธ
วิ
ชา
จะ
ระ
ณะ
สัม
ปัน
โน
สุ
คะ
โต
โล
กะ
วิ
ทู
อะ
นุต
ตะ
โร
ปุ
ริ
สะ
ทัม
มะ
สา
ระ
ถิ
สัต
ถา
เท
วะ
มะ
นุ
สา
นัง
พุท
โธ
ภะ
คะ
วา
ติ

แถวตั้งที่ 1 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทกระทู้ 7 แบก เป็นคาถาสวดพระจันทร์ 15 จบ
แถวตั้งที่ 2 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทเรียกฝนแสนห่าเป็นคาถาสวดพระอังคาร 8 จบ
แถวตั้งที่ 3 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์เกลื่อนสมุทรเป็นคาถาพระพุธ 17 จบ
แถวตั้งที่ 4 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์คลายจักรเป็นคาถาสวดพระเสาร์ 10 จบ
แถวตั้งที่ 5 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์ขว้างจักรตรึงไตรภพเป็นคาถาสวดพระพฤหัส 19 จบ
แถวตั้งที่ 6 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์พลิกแผ่นดิน เป็นคาถาสวดพระราหู 12 จบ
แถวตั้งที่ 7 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทตวาดฟ้าป่าหิมพานต์ เป็นคาถาสวดพระศุกร์ 21 จบ
แถวตั้งที่ 8 บทคาถาอิติปิโส 8 ทิศ บทนารายณ์แปลงรูป เป็นคาถาสวดพระอาทิตย์ 6 จบ
จะเห็นได้เมื่อสวดรวมวันจันทร์จนถึงวันอาทิตย์จะเท่ากับ 108 พอดี
ซึ่งจะสอดคล้องกับบทพุทธคุณ 56 ธรรมคุณ 38 และสังฆคุณ 14

          ด้านหน้า ของเหรียญพ่อจตุคามรามเทพยดานพเคราะห์
          - ด้านหน้าองค์พ่อจตุคามรามเทพนั่งอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเทพยดานพเคราะห์ทั้ง 8 คอยอำนวยอวยชัยให้สรรพ
สัตว์มีแต่ความสุขความเจริญ และในจักรวาลที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาโปรดสรรพสัตว์โลกทั้งไตรภพ คือ สวรรค์ ใต้บาดาล
และเมืองมนุษย์ ให้อยู่กันอย่างมีความสุข
          - พระหัตถ์ถือจักร ตรี เป็นสัญญลักษณ์แห่งความแคล้ว คลาด ปลอดภัย เป็นเดช อำนาจและความยิ่งใหญ่
          - เลขกำลังวันของเทพยดาประจำวันเกิดทุกองค์เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า เมื่อนับรวมกันเริ่มจากวันจันทร์ 15 ตามเข็ม
นาฬิหาจนถึงอาทิตย์ 6 คือ 15, 8, 17, 10, 19, 12, 21, 6 จะได้เท่ากับ 108 ตรงกับบทพระพุทธคุณ 56 บทพระธรรมคุณ
38 บทพระสังฆคุณ 14
          - บทพระพุทธคุณ 56 คือ อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาฯ สวดหนุนส่งให้ผู้บูชามีแต่ความสุขความเจริญ
          - เป็นอักขระขอม ซึ่งตรงกับคำอวยพรของพระสงฆ์ที่อวยพรให้ผู้เคารพศรัทธา จนถึงพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย 4
ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
          - ดอกบัวน้อยใหญ่ รวม 16 ดอก เปรียบเหมือนเทพเจ้าทั้ง 16 ชั้นฟ้าที่คอยช่วยเหลือ ดูแล ปกปักรักษาให้สรรพสัตว์
โลกมีแต่ความสุข ความเจริญ อยู่เย็นเป็นสุข ยิ่งผู้ใดยึดมั่นในคุณธรรมความดี ก็จะยิ่งได้ผลดียิ่งขึ้น โดยมีพระอรหันต์ 8 ทิศ
ตามหลักพุทธศาสนาและเทพยดานพเคราะห์ทั้ง 8 รวมดาวเกตุตรงกลางเป็น 9 คอยคุ้มครองดูแลสมกับ เป็นเทวดาประจำ
ตนเองตามหลักของพราหมณ์

          ด้านหลัง ของเหรียญพ่อจตุคามรามเทพยดานพคราะห์
          - พระราหู 8 ตน ล้อมรอบ พระราหูเป็นเทพที่มีฤทธานุภาพมาก และเป็นเจ้าแห่งทรัพย์สินเงินทอง จึงเป็นความหมาย
ให้แคล้วคลาดปลอดภัย และบูชาแล้วเงินทองโชคลาภจะไหลมาเทมา
          - วงกลมชั้นนอกสุดที่ล้อมรอบดวง คือ ดวงมหาอุจ ถือเป็นดวงที่คอยหนุนส่งให้ผู้บูชามีความสุข แคล้วคลาดปลอดภัย
อยู่ยงคงกระพันชาตรี มีอำนาจและบารมี
          - วงกลมชั้นที่ 2 คือ ดวงราชาโชค ซึ่งพระปิดตาพังพกาฬและพ่อจตุคามรามเทพ ประทานให้กับลูกศิษย์ทุกคนให้มี
ความเจริญค้าขายดี การค้าเจริญรุ่งเรือง มีโชคมีลาภ
          - วงกลมที่ 4 คือ ดวงเกษตร ซึ่งหมายถึงความอุดมสมบูรณ์หลักทรัพย์ ความมั่นคงทางฐานะการเงินที่ครอบคลุมดวง
ตนเองอีกชั้นหนึ่ง อันเป็นความหมายให้ผู้มีองค์พระปิดตาพังพกาฬและองค์พ่อจตุคามรามเทพ มีแต่ความมั่นคงในทรัพย์สิน
เงินทอง
          - ด้านหลังเหรียญเป็นรูปพระราหู 8 ตน ล้อมรอบด้วยดวงมหาอุจ ดาราโชค และดวงเกษตร 3 ดวงซ้อนกัน รอบองค์
ปิดตาพังพกาฬ เปรียบดั่งบารมีของพระปิดตาพังพกาฬ และองค์จตุคามรามเทพ ที่คอยปกปักรักษาผู้บูชาเคารพศรัทธา ให้มี
แต่ความสุข ความเจริญ แผ่ไปถึงสามภพ สวรรค์ บาดาล และเมืองมนุษย์ และเมื่อพิจารณาดูจะเห็นคล้ายใยแมงมุมดักศัตรู
ดักเหยื่อ เป็นเคล็ดให้แคล้วคลาดปลอดภัย และมีโชคลาภ ให้ รวยเงิน รวยทอง รวยโชค รวยลาภ

 
 


  กลับไปก่อนหน้า   |   หน้าต่อไป  

โทร.
(02) 224-0940
(02) 221-5791
ที่อยู่ : 2 สามแยกหมอมี ถ.พระราม 4
(ติด ธ.UOB สาขาสามแยก) ตลาดน้อย
เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100

คลิ้กที่นี่สำหรับแผนที่ตั้งศิริสโตร์
 
 

Copyright ® 2017 Siristore.com. All rights reserved by Siristore Team.
Contact : webmaster@siristore.com (Pasit & Jantarat)