|
พระตรีมูรติ
จัดสร้างโดย
พระเทพภาวนาวิกรม (เจ้าคุณธงชัย)
วัดไตรมิตร
วัตถุประสงค์
เพื่อสมทบทุนมูลนิธิร่มฉัตร และ
ผลิตสื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
แหวนแปดทิศ
เนื้อเงินลงยาราชาวดี
บูชา 1,800 บาท
พระนางพญา
รุ่นเปิดกรุ2514
พบในกรุไม่เกิน 7 พันองค์
- พิมพ์สังฆาฏิ (หมดแล้ว)
- พิมพ์เข่าโค้ง (หมดแล้ว)
พระกริ่งจักรตรี
72 พรรษาราชินี
หลวงพ่อสด
วัดปากน้ำ
เหรียญพลังจักรวาล
รุ่นชนะมาร
บูชาเหรียญละ 500 บาท
(ไม่เลี่ยม)
พระแก้วมรกต
ภ.ป.ร.
หลวงพ่อทวด
ภ.ป.ร.
เสือมหาอำนาจ วัดหัวลำโพง เนื้อนวะ บูชา 400 บาท
*** ไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น ***
ยกเว้นวัตถุมงคลเนื้อทองคำชาร์จ 2% |
|
โครงการจัดสร้างพระตรีมูรติ
โดย
พระเทพภาวนาวิกรม
( เจ้าคุณธงชัย ) วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์
ฝ่ายสงฆ์
อาจารย์สุชาติ
รัตนสุข ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ฝ่ายฆราวาส
โครงการจัดสร้างพระตรีมูรติ
มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เพื่อสมทบทุนมูลนิธิร่มฉัตร
โดยพระเทพภาวนาวิกรม ( เจ้าคุณธงชัย ) วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร กรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชน
2. เพื่อเป็นกองทุนในการจัดกิจกรรมและผลิตสื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ทางคณะกรรมการโดยรับมอบหมายจากท่านเจ้าคุณธงชัย
ได้กำหนดพิธีบวงสรวง 3 ครั้ง
ครั้งแรก
จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 22 มีนาคม 2548 ณ ศาลพระตรีมูรติ ลานเซ็นทรัลเวิล์ดพลาซ่า
ถ.ราชดำริ
ครั้งที่
2 จัดขึ้นเมื่อ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2548 ณ ศาลพระตรีมูรติ ณ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์
รองเมือง
ปทุมวัน ( ซึ่ง อ.สุชาติ รัตนสุข ได้ตั้งศาลแห่งนี้มากว่า 14 ปี )
ครั้งสุดท้าย
วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2548 ณโบสถ์เทพมณเฑียร ( โรงเรียนภารตวิทยาลัย ) เสาชิงช้า
การบวงสรวงทั้ง
3 แห่งเป็นเสมือนการประทานพรจากองค์พระตรีมูรติ 3 ประการคือ
พรประการที่หนึ่ง
เพื่อความสุขสมหวังในความรักและชีวิตครอบครัว
พรประการที่สอง
เพื่อความมั่งคั่งสมบูรณ์ทางด้านทรัพย์สินเงินทอง
และพรประการที่สาม
เพื่อความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงาน เกียรติยศ ชื่อเสียง
ทุกท่านที่ได้เข้าร่วมพิธีทั้ง
๓ ครั้ง ถือเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมรับของแจกเพื่อนำไปบูชา
๓ อย่าง คือเหรียญองค์พระตรีมูรติ โปสเตอร์พร้อมคาถาบูชา และน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์
พิธีกรรมและการดำเนินงาน
ทุกขั้นตอน ทางคณะกรรมการได้จัดขึ้นตามแบบฉบับดั่งเดิม ดังเช่นพิธีบวงสรวง
โดยบัณฑิตลลิต โมหัน และคณะพราหมณ์
จากสำนัก อาจารย์สุชาติ รัตนสุข ส่วนงานพิธีมังคลาภิเษกท่านเจ้าคุณธงชัย ดำริจัดตามแบบโบราณ
ปลุกเสกโดยพระราชาคณะ
และเกจิดังทั่วประเทศ
ส่วนพิธีมังคลาภิเษกจัดขึ้น ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร วันที่ 23 กันยายน
พ.ศ.2548 เวลา 16.00 น.
พระตรีมูรติ
สามมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ (องค์ศิวะ, องค์พรหม, องค์วิษณุนารายณ์)
(Trimoorati
means Pra Siwa, Pra Prom, Pra Narai)
แต่โบราณมาศาสนาฮินดูมีการนับถือเทพเจ้าหลายองค์
แต่เทพที่ได้รับการเคารพสูงสุดมีเพียง ๓ องค์คือ องค์พรหม
เทพผู้สร้างโลก องค์วิษณุนารายณ์ เทพผู้พิทักษ์ปกป้องโลก และองค์ศิวะ เทพผู้ทำลายล้างโลก
ซึ่งองค์เทพทั้ง ๓ รวมเรียกว่า
พระตรีมูรติ
การบูชาองค์พระตรีมูรติ
จึงเปรียบเสมือนบูชาสามมหาเทพสูงสุด ซึ่งเทพทั้งสามเป็นผู้บันดาลความเป็นไปของ
มวลมนุษย์ในโลก ตั้งแต่องค์พรหมผู้ให้กำเนิดกำหนดชีวิตแต่ละคนขึ้นมาเช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่าคนเราเกิดมาจากพรหมลิขิต
ชาวฮินดูเชื่อว่าเวลาที่องค์พรหมสร้างโลก คือ 1 วัน เรียก พรหมทิวา จากนั้นทรงบรรทม
๑ คืน เรียก พรหมราตรี เวลา 1
วัน 1 คืนขององค์พรหมรวมเรียกว่า 1 กัลป์ เทียบเวลาในโลกมนุษย์เท่ากับ ๘,๖๔๐
ปี ได้กล่าวกันว่าองค์พรหมสร้างมนุษย์ จาก
อวัยวะของพระองค์ ซึ่งได้เกิดเป็นวรรณต่างๆ ดังนี้ วรรณะพราหมณ์ เกิดจากเศียรของพระองค์
วรรณะกษัตริย์ เกิดจากบ่า
ของพระองค์ วรรณะแพศย์ เกิดจากส่วนท้องของพระองค์ วรรณะศูทร เกิดจากเท้าของพระองค์
ส่วนองค์วิษณุนารายณ์นั้นเป็นผู้คอยปกป้องดูแลความเป็นไปในโลกนี้ดังเช่นตำนานนารายณ์อวตารปางที่
2 เหล่าเทวดา
ทำการต่อสู้กับเหล่าอสูรซึ่งมีอิทธิฤิทธิ์มาก เทวดาทั้งหลายพากันวิตกว่าจะพ่ายแพ้
จึงนำเรื่องไปปรึกษาพระศิวะ พระนารายณ์
และพระพรหม เทพทั้ง 3 องค์ จึงตกลงกันว่าจะต้องทำ พิธีกวนเกษียรสมุทรเพื่อให้ได้น้ำอมฤตใครดื่มจะไม่ตายถึงแม้จะแพ้
้พ่ายก็เหมือนกับว่าไม่แพ้ พิธีกวนเกษียรสมุทรจึงเริ่มขึ้น โดยใช้เขาพระสุเมรุเป็นไม้กวนทะเลเกษียรสมุทร
นำพระยาวาสุกรี (พญานาค) เป็นเชือกพันรอบเขาพระสุเมรุ และเหล่าเทวดา-อสูร
ต่างก็รวมใจกันเข้าชักสายเชือก โดยเทวดาวางแผนให้พวก
อสูรดึงด้านหัวพญานาค ซึ่งฉุดนาน ๆ เข้าเกิดความร้อยจึงพ่นพิษโดนเหล่าอสูรจึงเกิดร่างกายสีดำ
ส่วนเหล่าเทวดาดึงหางพญา
นาคสบาย ด้วยมีฝนโปรยปรายเย็นชุ่มฉ่ำ การกวนเกษียรสมุทรต้องใช้เวลาเป็นแรมปี
เหตุนี้องค์นารายณ์ทรงเล่งเห็นว่าหากทำ
ไปเรื่อยๆ อาจทำให้ทะลุลงไปท่วมโลก จึงทรงอวตารแปลงกายเป็นเต่ายักษ์ลงไปรองรับแผ่นโลกไว้
เวลาผ่านไปถึง
1,000 ปี การกวนเกษียรสมุทรสำเร็จเหล่าอสูรกรูกันเข้ามาแย่งดื่ม องค์นารายณ์จึงแปลงร่างเป็นสาว
งามล่อเหล่าอสูรไปอีกทางหนึ่ง เทวดาจึงได้ดื่มน้ำอมฤตกันทั่วหน้า มีเพียง
ราหูดื่มไปได้ 1 อึกพระอาทิตย์และพระจันทร์เห็นเข้า
จึงฟ้ององค์นารายณ์ จึงขว้างจักรตัดกายราหูเป็น 2 ส่วน แต่ไม่ตายจึงเป็นตำนานเกิดปรากฎการณ์สุริยคราสและจันทรคลาสใน
ปัจจุบัน
สุดท้ายคือองค์ศิวะผู้กำหนดโชคชะตามนุษย์ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงยุคสมัยจนถึงวันสุดท้ายของโลกที่มีแต่ความวุ่นวาย
พระองค์ก็จะล้างผลาญโลกให้ปลาสนาการไปแล้วพระองค์ก็จะสร้างโลกใหม่ขึ้นมาทันทีในพิธีทางศาสนาฮินดูในงานบูชาตรีมูรติ
หรือมหาเทพทั้ง ๓ ซึ่งประกอบไปด้วยพระพรหม พระวิษณุและพระศิวะต้องแสดงพระวรกายให้สาวกได้เห็นเป็นบุญตาซึ่งพระ
พรหมก็จะปรากฏพระวรกายออกมาในรูปลักษณ์ที่มี 4 พักตร์ 4 กร ส่วนพระวิษณุก็จะปรากฏพระวรกาย
มาในรูปลักษณ์ที่เป็น
มหาเทพมี 1 พระพักตร์ 2 พระกร แต่สำหรับพระศิวะนั้นทรงปรากฏพระวรกายในรูปกายที่แปลกแหวกแนวสักหน่อย
คือไม่
่ปรากฏออกมาเป็นรูปองค์เทพโดยตรงแต่กลับแสดงพระวรกายให้ปรากฏออกมาเป็นรูปอวัยวะเพศชาย
อันเรียกว่า ศิวลึงค์
ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือมหาเทพนั่นเอง
คำสวดบูชาเทพตรีมูรติที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี
คือ คำว่า โอม ซึ่งมีที่มาจาก มะ แทน องค์พรหม, อะ แทน
องค์วิษณุ , อุ แทน องค์ศิวะ
การเอ่ยคำว่า
โอม จึงเท่ากับเป็นการเอ่ยนามของเทพทั้งสาม ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ได้รับพรอันประเสริฐจากเทพเจ้า
ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า โอมเพี้ยง ในความหมายของการอธิษฐานขอให้เทพเจ้าทั้งสามบันดาลให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นจริงยามใด
ที่เราอยากให้ความฝันเป็นจริง เรามักอธิษฐานจนติดปากว่า โอมเพี้ยง...ขอให้
( คำขอพร) ดังนั้นเราจึงมีองค์ศิวะ องค์พรหม
องค์วิษณุนารายณ์ระลึกอยู่ในจิตใจตลอดเวลา
ึรายการวัตถุมงคล
1. พระตรีมูรติ เทวรูปบูชา (Trimoorati Boocha) 32", 20", 11.9",
2.5"
ขนาดสูง 32 นิ้ว ปิดทอง
(Gold patched 32" height)
THB60,000.-
|
2. รูปหล่อลอยองค์ "พระตรีมูรติ" พิมพ์ใหญ่ สูง 3.6 ซ.ม. (Trimoorati
size 3.6 cm.)
|
|
เนื้อเงิน
ชุบทองแรเงา (Gold plated)
ขนาดสูง height 3.6 cm (หมด, sold out)
ขนาดสูง height 2 cm (หมด, sold out) |
|