หลวงปู่ชุนหมิง ฐิตเปโม (พระครูนิมิตศาสนคุณ) พระบริสุทธิ์สงฆ์ อายุ 95 พรรษา (LP Chunming)
ปี่เซี้ยะยุคธาตุเคลื่อนองศาเปลี่ยนต้องปี่เซี๊ยะแม่ลูกอ่อนอย่างเดียวเท่านั้น

* ปี่เซี๊ยะยุคโชธาตุเคลื่อนองศาเปลี่ยนต้องปี่เซี๊ยะแม่ลูกอ่อนอย่างเดียวเท่านั้น
* ธงร่ำรวยไฉ่ซิงเอี้ย เร่งลาภให้ร่ำรวยสมชื่อ

หลวงปู่ชุนหมิง ฐิตเปโม อายุ 95 ปี (LP. Chunming) พระผู้บริสุทธิ์แห่งปากน้ำโพ หลวงปู่รู้ศาสตร์จีนอย่างลึกซึ้ง เชี่ยวชาญเป็นที่พึ่งแก่ศิษย์

                เกี่ยวกับหลวงปู่
               หลวงปู่เป็นลูกจีนเกิดในไทยพ่อแม่พี่น้องกลับไปเมืองจีนหมดท่านบริสุทธิ์ตั้งแต่เด็ก ก่อนบวชช่วยเตี่ยค้าขายใน
เรือขยันอดทนอย่างหาได้ยาก บวชกับหลวงพ่อน้อย วัดส้มเสี้ยว ฝึกฝนจิตสมาธิอภิญญาจนช่ำชอง ศึกษาศาสตร์จีนจนเก่งกาจ
หาตัวจับยาก หลวงปู่เป็นทั้งเจ้าคณะตำบลเป็นพระครูเป็นเจ้าอาวาสลาออกหมด เพราะ "ละและสันโดษ" ปัจจุบันท่านมี
พรรษามากที่สุดในนครสวรรค์ (74 พรรษา) อัศจรรย์ของหลวงปู่ ตลอดชีวิตท่านไม่เคยดุด่าใครเลยไม่เคยโกรธใครด้วย
(น่าแปลกและอัศจรรย์มากหายากในแผ่นดิน) หลวงปู่หกล้มขาหักในห้องน้ำ ท่านนอนอยู่อย่างนั้นจนรุ่งเช้าไม่ร้องไม่บอกไม่
เรียกใครไม่มีอาการเจ็บปวด หมองง? ว่า ขาหักท่านทนได้ไง เวลาผ่าตัดท่านไม่ให้หมดวางยาสลบ หรือฉีดยาท่านให้ผ่าสดๆ
ท่านไม่รู้เจ็บปวดไม่บ่นไม่พูดไม่ร้องซักคำเดียว (ผู้รู้บอกท่านถอดจิตออก); พระศิษย์ที่ดูแลหลวงปู่ขังท่านไว้ในกุฏิใส่กุญแจ
ล็อคอยู่อย่างนั้นท่านออกมาได้อย่างไร กุฏิปิดหมด? ถามท่านบอกว่าข้างในมันร้อนมารับลมหน่อย แล้วท่านก็ยิ้ม ศิษย์แกล้ง
ท่านเห็นท่านนั่งเงียบอยู่บนรถเข็น ผลักรถเข็นไปชนเสาปูน พอชนเสร็จท่านหักมายิ้มแล้วพูดว่า "ข้าไม่เจ็บหรอกเอ็งซิเจ็บ"
ตอนหนุ่มๆ มีคนเห็นหลวงปู่ขึ้นมาจากแม่น้ำหน้าวัดเหยียบแพ จีวรไม่เปียกน้ำ และยังมีคนเคยเห็นท่านไปบิณฑบาตที่ปากน้ำ
โพ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นท่านจำวัดอยู่ในกุฏิ...หลวงปู่นี้ไม่ธรรมดา

                (โฉลกหลังวันสาร์ทจีนต้องปี่เซี๊ยะแม่ลูกอ่อนเท่านั้น)
                เข้ายุค 8 มาซักระยะ หลวงปู่คำนวนองศาธาตุใหม่ ปรากฏว่า กาลนี้ 4 กล คือมังกรเขียว เสือขาว หงษ์แดง
เต่าดำ ตามหลักฮวงจุ้ยเคลื่อนใช้ปี่เซี๊ยะธรรมดาจะมีผลเสมอตัวไม่โดดเด่นมากนัก หลังศาสตร์จีนต้องใช้ ปี่เซี๊ยะแม่ลูกอ่อนจึง
จะเลิศ แรงกว่าปี่เซี๊ยะของหลวงปู่ธรรมดา 7 เท่า เหนือกว่าปี่เซี๊ยะหินหยกทั่วไป 12 เท่าในยุคนี้ ที่เราเผชิญอยู่จะสังเกตได้ว่า
ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฝืดเคืองข้าวเริ่มยาก หมากเริ่มแพง น้ำมันแพง ค่าไฟแพง ไม่มีอะไรถูกหาเงินเริ่มยาก หลวงปู่จึงทำปี่เซี๊ยะ
แม่ลูกอ่อนมาสู้ ลักษณะตามตำราเป็นปี่เซี๊ยะตัวแม่กำลังก้าวขาเดินแยกเขี้ยวยิงฟันคอตั้งหางตกมีลูกอยู่บนหลัง ชู 2 ขา พร้อม
กระโจนตะปบเหยื่อ ทั้งแม่และลูกรวมกันจึงดูรุนแรงเด็ดเดี่ยว เหมาะที่จะมีไว้ติดตัวทุกคนทุกบ้าน เพื่อจะได้มีกำลังมาก เรียก
คนเรียกทรัพย์สินเงินทองเรียกลูกค้ากินอย่างเดียว ไม่ถ่าย ค้าขายร่ำรวย เสี่ยงโชคเล่นการพนันมีแต่ได้ เพราะมีปี่เซี๊ยะแม่ลูก
อ่อนดุแรงเป็นหลายเท่า โชคลาภเงินทองทำมาค้าขายจะคล่องไหลมาเทมาเข้าง่าย เพราะเกรงกลัวในอำนาจ เทพพยัคฆ์แม่ลูก
อ่อนยากที่อะไรจะสู้ฤทธิ์ได้ เหมาะกับทุกคนทุกบ้านในยุคนี้

                วิธีใช้
                1. ใช้ติดตัว 1 ตนเท่านั้น (แม่พร้อมลูก) ใส่คอแขวนเป็นพวงกุญแจก็ได้ ไว้ในกระเป๋าก็ได้ ถวายน้ำชาบ้างบาง
                    เวลาไม่จำกัด ไปไหนเอาปี่เซี๊ยะติดไปด้วย
                2. ใช้ที่ร้าน บริษัท บ้านคนใช้คู่ (2 ตนแม่ 2 ตน ลูกรวมเป็น 4 ตน) วางไว้ซ้ายขวา ที่หิ้งพระที่หน้าศาลเจ้าหน้า
                    ร้านถวายน้ำชา 2 ถ้วย ส้ม 4 ผล ตามสมควรไม่จำกัด

ปี่เซี๊ยะแม่ลูก่อนตำราว่า "ตัวแม่กำลังก้าวขาเดิน แยกเขี้ยวยิงฟันคอตั้งหางตก มีลูกอยู่บนหลังยก 2 ขา พร้อมกระโจน"

เนื้อทองผสมชุบ 3 กษัตริย์ (3K)

เนื้อเงินยวง (Old Silver)

เนื้อสัมฤทธิ์แดง (รมดำ) Black

ปี่เซี๊ยะแม่ลูกอ่อนมีลูกขี่หลัง พร้อมกระโจนแรง และดุมากๆ หลังวันสารทจีน ต้องใช้ปี่เซี๊ยะแม่ลูกอ่อนถึงจะสู้ได้ ยุคธาตุเคลื่อนองศาเปลี่ยน ต้องใช้ปี่เซี๊ยะอย่างนี้

                    ธงร่ำรวยองค์ไฉ่ซิงเอี๊ย
                    เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย มีรูปบูชากันเยอะแล้ว ชาวจีนนิยมรับท่านในวันตรุษจีนทุกปี เพื่อให้มีโชคลาภค้าขายดีมี
กำไรก้าวหน้าร่ำรวยเฮงๆ แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า มีสิ่งหนึ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ขององค์ไฉ่ซิงเอี้ย ที่ตามบ้านเศรษฐี พ่อค้าชาวจีนจะมี
บูชากันทุกบ้าน หวงแหนและหายากนั่นคือ "ธงไฉ่ซิงเอี้ย" ธงนี้แต่เดิมชาวจีนแผ่นดินใหญ่จะนำติดตัวมาจากเมืองจีนด้วย
หอบเสื่อผืนหมอนใบมีธงนี้ผืนเดียว ข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่ำรวยเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีกันทุกคน

                    พ่อหลวงปู่สมัยมาจากเมืองจันก็หอบเสื่อผืนหมอนใบมีธงนี้ผืนเดียว ล่องเรือค้าขายจนร่ำรวย หลวงปู่เคยนำ
ธงนี้ผืนเดียว ล่องเรือค้าขายจนร่ำรวย หลวงปู่เคยนำธงนี้มาดูตรวจสอบว่าเขาลงอะไรเสกแบบไหน ใช้จิตดูก็รู้ว่าเชิญเทพองค์
ใด ลงให้ขลังลงอย่างไร แต่ท่านก็เก็บเงียบของท่านไว้ (สมัยนั้นใครมีธงนี้ติดที่หัวเรือจะรู้ได้ทันทีว่า ต้องเป็นเรือของเจ้าสัว)
หลวงปู่บอกว่า ธงนี้เชิญองค์ไฉ่ซิงเอี้ยมาเหยียบและเอาเลือดท่านทาขอบให้เป็นสีแดง และแบ่งภาคเอาบริวารของท่านมา
ประจำอยู่ที่ธงทุกผืน บริวารของท่านมาประจำอยู่ที่ธงทุกผืน บริวารของท่านเป็นพญามังกร 7 ตัวธงนี้อยู่กับใครก็รวยเหมือน
มีองค์ไฉ่ซิงเอี้ย พร้อมเลือดเนื้อของท่านอยู่ด้วย และมีพญามังกร 7 ตัวดูแล อุดหนุนค้ำจุนอยู่ เลือดท่านอยู่ที่ไหนที่นั้นยากจน
ไม่ได้ (สีแดงที่ขอบธงแทนเลือดของท่าน)

                    ในยามนี้หลวงปู่ได้ทำธงร่ำรวยองค์ไฉ่ซิงเอี๊ย ขึ้นโดยปลุกเสกให้เหมือนธงผืนเก่า ที่พ่อท่านนำมาจากเมือง
จีน ธงนี้อยู่กับใครจะค้าขายก็มีลูกค้ามาก โชคลาภเงินทองเพิ่มพูนขึ้นมากมาย ทำธุรกิจก็เจริญ ร่ำรวย การบูชาให้ติดธงไว้
หน้าประตูบ้าน 1 ผืน (จะเป็นหน้าร้านก็ได้ เหมือนติดป้ายฮู้ของจีน) และให้มีอีกผืนหนึ่งเก็บไว้ต่างหาก วันพระให้จุดธูป 16
ดอก บอกองค์ไฉ่ซิงเอี้ยและโบกธงที่หน้าบ้านให้พัดเข้ามาในบ้าน โบก 8 ครั้ง เงินทองจะไหลเข้ามาไม่หยุดธุรกิจจะร่ำรวย
เป็นเศรษฐี เจ้าสัวจริงๆ ธงผืนเล็กท่านทำให้ใช้ติดกระเป๋าสตางค์ เปิดตำนานเจ้าสัวเมืองจีนที่เริ่มต้นจากเสื่อผืนหมอนใบอีก
ครั้ง เพื่อเป็นการรำลึกและให้เกียรติผู้สร้างธงผืนนี้ในแผ่นดินไทยเป็นครั้งแรก หลวงปู่จึงใส่อักษรจีนนาม "เล้ง-น่อย-เชียง-จี้"
เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงที่มาในแผ่นดินนี้ สร้างจำนวนน้อยเน้นที่ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตามของเดิมเป็นประการสำคัญ

ธงร่ำรวยองค์ไฉ่ซิงเอี้ย (Flag) ผืนใหญ่ใช้ติดหน้าบ้านแบบ "ฮู้" และใช้โบกเงินทองเข้าบ้านในวันพระ (สมัยก่อนธงนี้ติดหัวเรือใครจะเรียกว่า เรือเจ้าสัว) ผืนเล็กใช้พกติดตัวใส่ในกระเป๋าสตางค์ เรียกเงินทองเข้ามา