|
จตุคามรามเทพ
รุ่น เททองสองแผ่นดิน
วัดนางพระยา ต.ปากนคร อ.เมือง
จ.นครศรีธรรมราช
พิธีมหามงคลพุทธาภิเษก
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2548
แหวนแปดทิศ
เนื้อเงินลงยาราชาวดี
บูชา 1,800 บาท
พระนางพญา
รุ่นเปิดกรุ2514
พบในกรุไม่เกิน 7 พันองค์
- พิมพ์สังฆาฏิ (หมดแล้ว)
- พิมพ์เข่าโค้ง (หมดแล้ว)
พระกริ่งจักรตรี
72 พรรษาราชินี
หลวงพ่อสด
วัดปากน้ำ
เหรียญพลังจักรวาล
รุ่นชนะมาร
บูชาเหรียญละ 500 บาท
(ไม่เลี่ยม)
พระแก้วมรกต
ภ.ป.ร.
หลวงพ่อทวด
ภ.ป.ร.
เสือมหาอำนาจ วัดหัวลำโพง เนื้อนวะ บูชา 400 บาท
*** ไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น ***
ยกเว้นวัตถุมงคลเนื้อทองคำชาร์จ 2% |
|
จตุคามรามเทพ รุ่น เททองสองแผ่นดิน
วัดนางพระยา ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ประวัติวัดนางพระยา
วัดนางพระยา
ตั้งอยู่ที่ ตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชมีประวัติความเป็นมายาวนานหลายร้อยปี
ตัววัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่ต่อเชื่อระหว่างทะเลกับเมืองนครศรีธรรมราช เป็นแม่น้ำสายสำคัญทั้งด้านการเมือง
เศรษฐกิจ สังคมของ
ประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราชแต่เดิมเมื่อพันปีก่อนบริเวณวัดนางพระยามีชัยภูมิที่มี
จึงได้ถูกกำหนดให้เป็นท่าเรือขนส่งสินค้า
รวมทั้งเรือรบของอาณาจักรในสมัยโบราณ ฉะนั้นโดยรวมแล้ว พื้นที่แห่งนี้จึงมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่เดิม
ต่อ
มามีกษัตริย์ในอดีตพระองค์หนึ่งสร้างวัดในพระพุทธศาสนาตามพระราชประเพณีโบราณที่สืบมา
โดยได้พระราชอุทิศให้กับ
พระราชมารดา หรือที่เรียกตามภาษาถิ่นโบราณว่า "แม่เจ้าอยู่หัว"
หรือ "แม่นางพระยา" ตามตำนานยังได้กล่าวถึงพระนาง
จันทรา นางพระยาทะเลใต้อีกด้วย โดยมีชื่อวัดว่า "วัดนางพระยา"
ดังปฐมเหตุแห่งที่มาของวัดนี้ ซึ่งนัยความหมายคือ วัดของ
แม่เจ้าเมือง เป็นการแสดงความกตัญญูต่อพระราชมารดา
ต่อมาภายหลังได้ปรากฏว่ามีการตั้งรูปของ
"แม่นางพระยา" ขึ้นและผู้เฒ่าผู้แก่ได้บอกเล่าว่ามีมานานเป็นร้อยปีคู่กับวัด
นางพระยา กล่าวกันว่าเป็นเทพชั้นสูงที่มีคุณธรรมและความเมตตามาก เป็นที่กล่าวขานเลื่องลือมาช้านาน
ผู้สัญจรไปมาในแม่น้ำ
หน้าวัด หรือจะเดินทางออกทะเล เมื่อผ่านหน้าวัดนางพระยาก็ต้องยกมือไหว้ทุกครั้งเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษจวบกระทั่ง
ปัจจุบัน
|
เพดานศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชที่ได้ซ่อมแซมบูรณะใหม่
ประกอบด้วยราหูและกลุ่มดาวฤกษ์27 กลุ่ม
อันมีความหมายเป็นศูนย์กลางจักรวาล |
กำหนดจตุคามรามเทพ
และศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
|
รูปปั้นแม่นางพระยาองค์เก่าดั้งเดิม |
โดยสรุปแล้ว
วัดนางพระยา เป็นวัดที่กษัตริย์สร้างและเป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของแม่นางพระยามารดาของเจ้า
เมือง อันเป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนนครฯ มาหลายชั่วอายุคน
ตามประวัติที่ได้บันทึกและเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ชาวนครศรีธรรมราชที่สนใจเรื่องตำนานการสร้างหลัก
เมืองนคร
ศรีธรรมราช โดยเมื่อปี พ.ศ.2528 ได้มีนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งได้ย้ายมารับราชการที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและได้รับคำ
บอกกล่าวแนะนำจากผู้เคารพนับถือว่า ทางทิศตะวันออกของเมืองนครศรีธรรมราชมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่
โดยจะยกบทความอ้างอิง
ซึ่งเขียนโดยคุณสุวัฒน์ เหมอังกูร ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับจตุคามรามเทพดังนี้
"ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งเมืองนครศรีธรรมราชที่ต้องจารึกไว้อีกครั้งหนึ่งก็คือ
การสร้างหลักเมือง เพื่อเป็นหลัก
ชัย เป็นศูนย์รวมใจ สร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชน เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นที่วัดเล็กๆ
วัดหนึ่งนอกเมืองนครศรีธรรมราช เป็นวัดที่
ไม่ได้มีถาวรวัตถุมากมายใหญ่โตเหมือนกับวัดในเมือง ดูไปแล้วค่อนข้างจะเก่าและขาดแคลนมีโบสถ์และศาลาเล็กๆ
เพื่อให้พุทธ
ศาสนิกชนที่อยู่รอบๆ ได้มาทำบุญปฏิบัติศาสนกิจ สิ่งสำคัญที่เป็นศูนย์รวมของชาวบ้านแถบนั้นคือศาลเล็กๆ
หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่
ภายใตวัด เรียกกันว่า "ศาลแม่นางพระยา" ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับวัด
คือ วัดนางพระยา ณ ศาลแห่งนี้ประชาชนแถวนั้นให้ความ
เคารพนับถือกันอย่างมากเพราะมีการประทับทรงช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนในการดำรงชีพ
ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่เข้าไปมัก
เป็นคนที่มีฐานะไม่ร่ำรวยมีปัญหาต่างๆ ไปให้แม่นางพระยาช่วย คนที่เข้าไปทำบุญถวายปัจจัยให้วัดจึงมีน้อย
เหตุการณ์ที่วัดนางพระยา
เมื่อนายตำรวจใหญ่เดินทางไปที่วัดได้เล่าว่าขณะนั้นตัวท่านเองก็ไม่แน่ใจเรื่องการทรง
เกรงว่าจะมีการหลอกลวงกันขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ถ้ามาถูกหลอกโดยชาวบ้านแบบนี้ก็คงเสีย
ชื่อแน่ ท่านจึงระมัดระวังตัวพร้อมกับเดินขึ้นไปพบ เมื่อไปถึงเทพนางพระยาที่ประทับในร่างทรง
ก็ทักขึ้นด้วยเสียงดังว่า
"โอ้โฮ! รอมาเป็นพันปีแล้ว" ท่านนึกในใจว่า นี่จะมาใช้จิตวิทยาอะไรกับท่านและด้วยประสบการณ์
ที่ผ่านมาเรื่องราวแบบนี้มา
มากมายประกอบกับจิตใจเข้มแข็ง ไม่กลัวอะไร ท่านจึงเดินเข้าไปนั่งคุยใกล้ๆ จุดบุหรี่แล้วจี้ไปที่ขาที่แขนของคนทรง
ปรากฏว่า
ร่างทรงไม่แสดงอาการสะดุ้งสะเทือนแต่ประการใด ถึงขนาดนั้นท่านก็ยังแสดงอาการไม่ค่อยเชื่ออยากจะทดลองทดสอบให้
มากกว่านั้น แต่เนื่องจากชาวบ้าน อยู่กันเต็มไปหมด จึงไม่อยากทำอะไรที่ชาวบ้านจะมองว่าเป็นการดูหมิ่นหรือไม่เคารพเทพที่
พวกเขานับถือ จึงได้แต่ถามไปว่า เรียกผมมามีธุระอะไร? แม่นางพระยาเห็นว่าท่านไม่เชื่อถือและไม่มั่นใจว่าเป็นการเข้าทรงจริง
จึงได้แสดงให้เห็นว่าท่านไม่ได้หลอกลวง โดยการไล่เรียงบรรพบุรุษและดวงดาวต่างๆ
ในดวงของท่าน ให้ฟังปรากฏว่าถูกต้อง
ทุกอย่างสร้างความประหลาดใจให้กับท่านเป็นอย่างมาก เพราะร่างทรงก็คอชาวบ้านธรรมดามารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวท่าน
โดย
เฉพาะอย่างยิ่งดวงดาวต่างๆ ในดวงชะตาของท่านนี้น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ประการหนึ่งว่า
จะเป็นการทรงจริงและผู้ที่มาเข้า
ประทับทรง ต้องไม่ใช่เจ้าหรือเทพธรรมดาจะต้องเป็นเทพที่มีความรู้ในเรื่องของโหราศาสตร์เป็นอย่างดี
จึงตกลงใจที่จะพูด
คุยกันอย่างเป็นงานเป็นการคำตอบที่ท่านได้รับ สร้างความแปลกใจให้ท่านเป็นอย่างมากนั่นคือ
แม่นางพระยาขอให้ท่านช่วย
ดำเนินการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งพูดถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองนครฯ
รวมทั้งเรื่องของดวง
เมืองนครศรีธรรมราช ที่ท่านได้ศึกษาพบในจดหมายเหตุปูมโหรพร้อมกล่าวว่าท่านเองก็ทราบดีอยู่แล้วว่าเมืองนครฯ
ถูกสาป
และมีดวงเมืองเก็บไว้อยู่ นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตอกย้ำให้ท่านฉงนว่าแม่นางพระยาทราบได้อย่างไร
ว่าท่านมีดวงเมืองนครฯ
ที่ถูกสาปนี้อยู่และเมื่อได้ฟังเรื่องทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท่านศึกษาค้นคว้า
จนมีความรู้ทางด้านนี้อย่างแตกฉาน ทำให้
ท่านสงสัยว่าแม่นางพระยา ในร่างทรงคือผู้ที่เกี่ยวข้องกับต้นตระกูลของเจ้าพระยานคร
ท่านจึงได้สอบถามเรื่องราวทาง
ประวัติศาสตร์ในเรื่องของเจ้าพระยานคร แม่นางพระยากลับตอกว่าอยากรู้ก็ไปถามลูกหลานของเขาซิ
นั่นแสดงว่าแม่นางพระยา
ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรตามที่ท่านสงสัยถาม จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นยุคเก่ากว่านั้นขึ้นไปอีก
แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นยุคใดแน่ ซึ่ง
ท่านได้เก็บความสงสัยไว้ไม่ได้สอบถามไป เพียงแต่บอกว่า ท่านเป็นตำรวจไปสร้างหลักเมืองไม่ได้หรอก
งานนี้เป็นหน้าที่ของ
ฝ่ายปกครอง ทางแม่นางพระยาก็ยืนยันว่าต้องเป็นท่านคนเดียวเท่านั้นที่สร้างได้
เมื่อยังหาข้อยุติไม่ได้ประกอบกับชาวข้านรออยู่
เมื่อทราบว่าท่านคือผู้กำกับก็แตกฮือออกไป แต่ยังด้อมๆ มองๆ อยู่ห่าง ท่านเกรงว่าจะรบกวนเวลาของชาวบ้านและมีความศักดิ์
สิทธิ์จริงก็ช่วยให้พวกเขาร่ำรวยมีเงินมีทองกันมากๆ แม่นางพญาจึงบอกด้วยเสียงดังๆ
ว่า อยากรวยให้ไปดูที่ศาลา จากนั้นทาง
ท่านคิดอยู่ตลอดเวลาถึงเหตุการณ์ที่ท่านได้ประสบมาโดยไม่ได้ได้คาดหมาย พร้อมกับคิดทบทวนถึงการโดยไม่เสียงานบ้านเมือง
ซึ่งเรื่องราวของดวงเมืองของนครศรีธรรมราชที่ลักษณะดังคำสาปที่ท่านเก็บไว้และติดใจท่านอยู่ตลอดเวลามาพ้องต้องกันพอดี
กับคำพูดบอกกล่าวของแม่นางพระยา นี่! น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คิดได้ว่า
การเข้าประทับทรงดังกล่าวไม่ใช่เป็นการหลอก
ลวง เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาหลอกให้สร้างหลักเมือง จะต้องเป็นเรื่องที่มีเหตุผลลึกซึ้งและน่าจะต้องติดตามสืบสาวราว
เรื่องให้กระจ่าง*
(* หมายเหตุ: ได้ขออนุญาตต่อคุณสุวัฒน์ ผู้เขียนบทความลงในนิตยสารพระเครื่อง
เพื่อนำมาเผยแผ่ให้ประชาชนได้รับทราบ
ข้อมูลเกี่ยวกับวัดนางพระยา)
|
|
ศาลาแม่นางพระยาหลังใหม่ที่ก่อสร้างอยู่ |
พระครูสันติพัฒนาการเจ้าอาวาสวัดนางพระยา
ประกอบพิธีบวงสรวงที่ศาลหลักเมือง ในการ
ซ่อมแซมบูรณะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
ให้มีความสง่างาม |
บทสรุป
จะเห็นได้ว่าจากบทข้อเขียนนี้
แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดนางพระยาและแม่นางพระยาได้เป็นอย่างดีทั้งยัง
มีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่มิสามารถ กล่าวอ้างหรือเปิดเผยได้แต่เรื่องการกำเนิดตำนานการสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
หรือกำเนิดจตุคามรามเทพนั้นจุดเริ่มต้น ทั้งหมดอยู่ที่วัดนางพระยาแห่งนี้แน่นอน
มีบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์รู้เห็นหลาย
คนด้วยกันที่สามารถสอบถามได้ แม้ว่าการบอกเล่าต่อมาภายหลังจะแตกแขนงออกไปก็ตาม
จึงควรที่จะได้มีการบันทึกเรื่องหลักๆ
ไว้ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบข้อมูลในเบื้องต้นบ้างตามควร ซึ่งการทรงจตุคามรามเทพนั้นเป็นเรื่องภายหลัง
แต่ก็ตรงกันในการ
สร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช
วัดนางพระยาวันนี้
แต่เดิมหลายสิบปีอยู่ในสภาพเป็นวัดเล็กๆ
เสนาสนะต่างอยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรม มาเมื่อเรื่องราวของจตุคามราม
เทพโด่งดังไปทั่วประเทศ จึงทำให้วัดนางพระยาได้รับการกล่าวถึง มีผู้ที่เคารพกราบไหว้ได้เดินทางมาสักการะแม่นางพระยา
กันไม่ขาดสายด้วย ข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ มิอาจปฏิเสธได้ ได้มีการสร้างศาลาแม่นางพระยาหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
จาก
การสร้างวัตถุมงคลรุ่นกำเนิดจตุคามมอบให้กับผู้มีจิตศรัทธาและครั้งนี้มีผู้มีจิตศรัทธาจากประเทศมาเลเซียได้เล็งเห็นคุณค่าของ
วัดนางพระยาจึงได้พาคณะมาดำเนินการหล่อรูปองค์จตุคามรามเทพขนาด 1 เมตร เพื่อไปประดิษฐาน
ที่เมืองอิโป ประเทศ
มาเลเซีย ให้ประชาชนได้กราบไหว้ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี แสดงให้เห็นถึงการเผยแผ่บารมีขององค์จตุคามรามเทพ
บารมีของ
แม่นางพะยาและเมืองนครศรีธรรมราช ออกไปสู่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ และในโอกาสนี้จึงได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์
วิหาร จตุคามรามเทพโดยเฉพาะเป็นแห่งแรกของเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงในตำนสนจตุคามราม
เทพและพัฒนาวัดนางพระยาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของนครศรีธรรมราช
ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวน
มาก ทั้งนี้ก็คงต้องพึ่งบารมีแม่นางพระยาและองค์จตุคามรามเทพ ได้ชักนำผู้มีจิตศรัทธา
ผู้เคารพนับถือจากทั่วทุกสารทิศได้มา
ร่วมกุศลสร้างวิหารจตุคามรามเทพและองค์จตุคามรามเทพเพื่อประดิษฐานภายในวิหารต่อไป
ปรัชญาความหมายแห่งพลังจักรวาล
|
|
* หลังแบบนูน
* |
* หลังแบบเรียบ * |
มนุษย์และสรรพสิ่ง
เมื่อถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกย่อมตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์อันส่งผลต่อชะตา
ชีวิตมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม โดยไม่มีข้อยกเว้น เรียกว่า ฟ้าลิขิต ด้วยโลกมนุษย์คือพระราหู
อันโคจรอยู่ในจักรวาลอันมืดมิดท่าม
กลางแรงดึงดูดระหว่างดาวพระเคราะห์ทุกดวง อาทิเช่น ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ดาวพฤหัส
เป็นต้น รับพลังจากดาวฤกษ์ อันมีแสง
สว่างที่ทำให้มวลชีวิต ถือกำเนิดโดยมีดวงอาทิตย์เป็นต้นกำเนิดของพลังงาน อันทรงอิทธิพลสูงสุด
และในจักรวาลอันเวิ้งว้าง
ยังประกอบด้วยกลุ่มดาวฤกษ์จำนวนมาก ที่ส่งพลังแสงสว่างออกมาตลอดกาล โหราศาสตร์แบ่งออกเป็น
27 กลุ่มดาวฤกษ์ ยาม
เมื่อโลกโคจรหมุนรอบตัวเองและหมุนรอบดวงอาทิตย์ พลังงานแสงจากดาวฤกษ์จะส่องลงมาบนโลกทำปฏิกริยากับธาตุต่างๆ
ดิน น้ำ ลม ไฟ ปรุงแต่งเข้าด้วยกัน ทั้งกลางคืนและกลางวัน โดยพระอาทิตย์เป็นประธานแห่งภาคกลางวัน
พระจันทร์เป็นประ
ธานแห่งภาคกลางคืน โดยมีอิทธิพลสูงสุดต่อมวลชีวิต เช่น การสังเคราะห์แสงของพืชตอนกลางวันการหาอาหารกินของสัตว์
หรือน้ำขึ้นน้ำลงด้วยอิทธิพลแรงดึงดูดของดวงจันทร์ในภาคกลางคืน การตื่นตอนเช้าของมนุษยื
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นหรือการ
นอนเมื่อถึงกลางคืน เหล่านี้คือพฤติกรรมที่เป็นธรรมชาติของโลกที่สรรพสิ่งอาศัยอยู่
อันเป็นวัฏจัรกที่มีมายาวนาน จนมิอาจหยั่ง
ได้ถึงแต่เป็นสัจธรรม กลางคืนกลางวันหมุนเวียนเปลี่ยนไป โดยมีดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างตลอดกาลปรุงแต่ง
รวมทั้งพลังงานดึง
ดูด ระหว่างดาวนพเคราะห์ทุกดวงในแต่ละช่วงเวลา เพราะโลกมนุษย์และสรรพสิ่งจึงมีความแตกต่างกันตามแต่ห้วง
ช่วงเวลา
ที่เรียกว่า ดวงกำเนิดฤกษ์กำเนิด เมื่อพลังงานและแรงดึงดูด มวลอากาศธาตุและธาตุทั้ง
4 ดิน น้ำ ลม ไฟ ปรุงแต่งกันเกิดเป็น
บุคคล และมีพลังงานที่เป็นวิญญาณธาตุ ที่มิได้สูญสลายไปไหนเข้าสิงสู่องค์ประกอบนั้นจึงบังเกิดชีวิตขึ้นบนโลก
โดยมีอุปนิสัย
ใจคอ ความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างๆกันตามแต่เวลาเกิด ในคัมภีร์กาลจักรศาสตร์
จึงได้กำหนดลักษณะอุปนิสัยลักษณะของบุคคล
ไว้ตามวันเกิดราศีเกิดและฤกษ์เกิด โดยมีคุณลักษณะของดาวนพเคราะห์ ดาวฤกษ์เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติ
แต่ทั้งนี้โลกได้กำหนด
ให้มีหลักยึดเหนี่ยว คือ ศาสนา ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องควบคุมมนุษย์ที่ถือกำเนิดขึ้นมา
โดยบังคับควบคุมวิญญาณธาตุ ให้มีความ
รู้สึกนึกคิดความผิดชอบชั่วดี เพราะทุกคนย่อมมีความแตกต่างกัน ตามธรรมชาติที่กำเนิด
ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่าโลกมนุษย์เป็น
สนามทดสอบของจักรวาล อันมีวิญญาณธาตุเป็นเครื่องควบคุมสังขารเพื่อทำความดี
ความชั่ว ผู้ทำความดีวิญญาณธาตุหรือ
จิตย่อมมีพลัง ในด้านดี ส่งผลให้เมื่อสังขารแตกดับ วิญญาณธาตุนั้นย่อมไปสู่ที่ดีดีเรียกว่า
สู่สุขคติ รอการกลับมาเกิดใหม่ผู้ทำ
ความชั่ว ความเลว จิตวิญญาณย่อมมีพลังในด้านชั่ว เมื่อสังขารแตกดับ จิตมีพลังในด้านไม่ดีจึงอาจไม่เหมาะสมหรือมีพลังไม่
พอที่จะเกิดในร่างสังขารของมนุษย์ก็ อาจไปเกิดในร่างของสัตว์ต่างๆ รอการสะสมความดีเพื่อจะได้กลับมาเกิดเป็นมุษย์ต่อไป
|