มูลเหตุการสร้างพระพุทธรูปชุดนี้เริ่มจากผู้ที่มีความสนใจ ศึกษาสะสมและเห็นคุณค่าของพระพุทธ
รูปบูชาไทยยุคสมัยต่างๆประมาณ 30 ท่าน มีโอกาสได้ชมพระพุทธรูปชุดนี้อย่างใกล้ชิดแล้วเกิดความปิติหลงใหลใน
ความงดงามของพุทธศิลป์และฝีมือช่างมีปรากฏอยู่ในองค์พระ ความล้ำเลิศของศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละยุค
สมัยที่สมบูรณ์แบบ มีความต้องการเป็นเจ้าของ จึงใช้ความพยายามทดลองติดต่อขอเช่าบูชาจากเจ้าของผู้ครอบครอง
แต่ได้รับการปฏิเสธอย่างมีเหตุผลว่าต้องการเก็บรักาษไว้ให้เป็นมรดกสำหรัลลูกหลานในตระกูลสืบไป ด้วยทุกวันนี้
พระพุทธรูปบูชาไทยที่มีความงดงามสมบูรณ์แบบเช่นนี้มีเหลือให้พบเห็นอยู่ในเมืองไทยน้อยมาก มีค่าราคาสูงจนเรียก
ได้ว่า ไม่อาจประเมินค่าได้ในอนาคต แต่มีความเห็นใจและเข้าใจเจตนาอันบริสุทธิ์ของคนกลุ่มนี้ที่มีความต้องการอยาก
มี อยากได้เป็นเจ้าของทุกคน ซึ่งก็ตรงกับความคิดเดิมของท่านที่อยากจะถอดพิมพ์สร้างใหม่ (Copy) พระพุทธรูปชุด
นี้ให้แพร่หลาย เพื่อเป็นการแสดงผลงานของศิลปินไทย ให้เป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวางมากขึ้น ตามอย่างชาวโลก
ตะวันตกที่นิยมการก๊อปปี้งานศิลป์ชิ้นสำคัญๆ ออกแพร่หลาย เป็นการประกาศเกียรติคุณงานชิ้นนี้ให้เป็นที่ประจักษ์
ต่อชาวโลกอย่างกว้างใหญ่ไพศาล โดยกำหนดเงื่อนไขไว้ 5 ข้อให้ปฏิบัติดังนี้
                    
                    1. ต้องระมัดระวังในการถอดพิมพ์พระต้องไม่ทำให้พระพุทธรูปองค์ต้นแบบได้รับความเสียหาย
                    2. ดำเนินการสร้างให้เป็นประโยชน์เพื่อการกุศล
                    3. เปิดกว้างให้ผู้มีความต้องการมีสิทธิ์เป็นเจ้าของทุกรายอย่างทั่วถึง
                    4. ต้องทำสัญลักษณ์ให้รู้ว่าเป็นพระถอดพิมพ์สร้างเลียนแบบ เพื่อกันความสับสนในอนาคต
                        ระบุอักษรบอกวาระการสร้างและจำนวนให้เห็นอย่างชัดเจน
                    5. พิธีการสร้างให้เป็นไปตามตำราและประเพณีนิยมปฏิบัติแต่โบราณมา

                    เมื่อได้รับอนุญาตและทราบเงื่อนไข เห็นว่านำมาปฏิบัติได้จึงนำเรื่องการสร้าง เข้าปรึกษาพระครู
พิศาลพัฒนพิธาน เจ้าอาวาสวัดปริวาศ กทม. ซึ่งเป็นพระนักพัฒนาที่มีชื่อเสียง ทั้งการพัฒนาและการปกครองวัดของ
ท่านเป็นที่ประจักษ์แจ้ง ได้ความเคารพเลื่อมใส ศรัทธาจากศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกล โดยเฉพาะโครงการบูรณะ
ปิดทองพระพุทธรูปองค์สำคัญของประเทศไทย ซึ่งท่านปฏิบัติสืบเนื่องร่วมกับคณะศิษย์มาอย่างเงียบๆ จนสำเร็จไป
แล้วทั่วประเทศไทยไม่น้อยกว่า 30 องค์

                    ขณะนี้ท่านมีภาระหน้าที่ต้องสร้างพระเมรุแห่งใหม่แทนของเดิม ซึ่งชำรุดเสื่อมโทรม สถานที่ตั้ง
ไม่เหมาะสมและประการสำคัญรูปแบบเดิมไม่ถูกสุขลักษณะตามกฎหมายเทศบัญญัติ และยังต้องบูรณะปฏิสังขรณ์
กำแพงพระอุโบสถหลังเดิมให้คงสภาพไว้เป็นการอนุรักษ์วึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ท่านได้พิจารณาแล้วเห็น
ว่าการสร้างพระพุทธรุปชุดนี้มีเจตนาบริสุทธิ์ มีกุศลประโยชน์ต่อโครงการของท่า จึงรับเป็นผู้ดำเนินการสร้างในนาม
วัดปริวาศ เพื่อหารายได้ตั้งเป็นกองทุนบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดปริวาศ อนุญาตให้จัดพิธีทุกขั้นตอน ณ วัดปริวาศ ขึ้นเป็น
ครั้งแรก และรายได้บางส่วนยังนำไปสมทบทุนอีกสองโครงการที่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นการสร้างกุศลที่เป็น
ประโยชน์ต่อส่วนรวม

                    เพื่อให้ท่านที่มีความต้องการพระพุทธบูชา 3 สมัยไว้บูชาได้สร้างและมีส่วนร่วมพิธีด้วยตนเอง ตาม
คตินิยม ประเพณีปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั่วโลกแต่อดีตถึงปัจจุบัน รายได้จากการดำเนินการสร้างครั้งนี้ นำไปใช้ใน
การกุศลเพื่อทำนุบำรุงบวรพุทธศาสนา ดังนี้

                    1. เป็นกองทุนในการสร้างพระเมรุ และบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดปริวาศ ของพระครูพิศาลพัฒนพิธาน
                       เจ้าอาวาสวัดปริวาศ ยานนาวา กรุงเทพฯ




                    2. สนับสนุนโครงการเพชรยอดมงกุฏ มูลนิธิร่มฉัตร ของพระราชภาวนาวิกรม (ธงชัย)
                       ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ




                    3. สมทบทุนโครงการสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ 50 พรรษา มหาวชิรลงกรณ์ ประจำจังหวัดอุบลราชธานี
                       โดยพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพฯ