|
" พระผู้โด่งดังคงกระพันชาตรี
อีกทั้งดีมีเมตตา มหาโชค"
วัดศรีทรงธรรม
ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย
จ.นครสวรรค์
ด้วยแรงแห่งศรัทธา!!!
*** ไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น ***
ยกเว้นวัตถุมงคลเนื้อทองคำชาร์จ 2% |
|
หนึ่งพรรษาที่ผ่านมาสร้างความฮือฮาและเป็นที่กล่าวขาน สำหรับผู้คนทั้งภายในประเทศและที่ประเทศ
มาเลเซีย ได้รู้จักชื่อ พระอาจารย์สุพจน์ จนฺทูปโม แห่งวัดศรัทรงธรรม ผู้สร้างตำนานตะกรุด
" พุทธคง" อันโด่งดัง รวม
ทั้งตระกูล "นับเงิน" ซึ่งขณะนี้เป็นที่ต้องการของทุกคนที่ยังไม่มีไว้บูชา
ประเทศมาเลเซียเป็นประเทศหนึ่งที่มียอดสั่งจอง
มายังศูนย์ศิริสโตร์จำนวนมาก เพราะมีชาวมาเลเซียที่เช่าไปบูชาแล้ว
ประสบความสำเร็จตามคำบอกเล่าของพระอาจารย์
แต่ทางวัดก็ไม่สามารถหาของให้ได้เนื่องจากได้หมดไปแล้วในระยะเวลาไม่ถึง 1
เดือน จึงได้แต่เพียงบอกว่าให้รอรุ่นต่อไป
ซึ่งของพระอาจารย์สุพจน์ไม่ว่ารุ่นไหนๆ ล้วนเป็นของดีมีความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด
ตามคำที่พระอาจารย์กล่าวไว้ว่า " ไม่ดี
จริงจะไปหลอกเขาทำไมควรให้พิสูจน์ได้"
ทุกๆ
ปีของวันปีใหม่ (แบบไทย) คือวันสงกรานต์จะมีพิธีสรงน้ำพระอาจารย์สุพจน์ในปีนี้ทางศิษย์ได้
กำหนดไว้เป็นวันที่ 17 เม.ย. 47 จึงใคร่เรียนเชิญศิษยานุศิษย์และผู้ที่ให้ความเคารพนับถือร่วมงานในครั้งนี้โดยพร้อม
เพรียงกัน
ในโอกาสที่เป็นมงคลนี้ทางศิษย์จึงได้ขออนุญาตให้พระอาจารย์สุพจน์จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น
เพื่อตอบ
แทนศิษยานุศิษย์ตลอดจนผู้คนทั้งหลายที่ได้แสดงมุทิตาจิตต่อท่าน สร้างวัตถุมงคลรุ่น
"สรงน้ำ" ขึ้นมาและเปิดโอกาส
ให้เช่าบูชาพร้อมกันในวันที่ 17 เม.ย. 47 ที่วัดศรีทรงธรรม อ.บรรพตพิสัย
จ.นครสวรรค์ ที่ศูนย์ตัวแทนในกรุงเทพฯ
คือ ศูนย์ศิริสโตร์ สามแยกหมอมี โทร. 0-2221-5791, 0-2224-0940
พญาบุญลือ
คำว่า "พญา" นั้นหมายความว่า เป็นระดับหัวหน้าหรือจ่าฝูง ส่วนคำว่า
"บุญลือ" หมาย
ความว่า บุคคลที่เก่งกล้าเป็นที่รู้จักทั่วไป หรือเลื่องลือไปไกล เมื่อรวมแล้วมีความหมายว่า
เก่งกล้าสามารถจนได้เป็นผู้นำ
ที่ชื่อเสียงเลื่องลือขจรไปไกล พญาบุญลือที่ผู้เขียนจะกล่าวต่อไปนี้เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีมาแต่โบราณจะ
นิยมสักเป็รูปไว้บริเวณโคนขา ลักษณะคล้ายปลัดขิก จะมีข้อแตกต่างตรงที่พญาบุญลือจะมีตามีปาก
มีขาหลัง 2 ขา มีปีก
และมีหางให้ผลทางด้านแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม และนะจังงัง
พญาบุญลือของพระอาจารย์สุพจน์
แกะจากไม้มะยมตายพราย ที่ยืนตายทั้งต้น ซึ่งเป็นไม้อาถรรพณ์หา
ยาก พระอาจารย์ได้ทำการปลุกเสกพร้อมลงเลขยันต์ในเนื้อไม้ใต้ท้องด้านหน้าด้านสันหลัง
และบริเวณสะโพกทั้ง 2 ด้าน
เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์มีพลังอานุภาพให้ความคุ้มครองป้องกันกับผู้ที่นำไปใช้
ได้ทำพีธีปลุกเสกทุกวันพระจนครบ 9
วันพระ มีศิษย์ท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่าวันหนึ่งซึ่งเป็นวันพระได้มาหาพระอาจารย์
(วันพระท่านจะไม่ไปไหน) แต่ไม่เจอ
จึงเที่ยวเดินตามหา ขณะผ่านห้องที่พระอาจารย์หวงห้ามก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรสักอย่างวิ่งชนกันดังกราวออกมานอก
ห้องซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นเสียงพญาบุญลือที่พระอาจารย์ทำการปลุกเสกอยู่
เมื่อเสร็จพิธีแล้วพระอาจารย์ได้กล่าวกับ
ผู้เขียนว่า "เหนื่อยมากในการปลุกเสกครั้งนี้ เพราะต้องให้พลังจิต สมาธิสูงในการควบคุมบังคับให้พญาบุญลืออยู่ในอำนาจ
และเชื่อฟังปฏิบัติตาม แต่ก็ได้ผลคุ้มค่ำที่ได้เครื่องรางของขลังอันสุดยอดแห่งความศักดิ์สิทธิ์มีอำนาจยิ่งกว่าปลัดขิกทั่วไป
หลายร้อยเท่า ผู้ใดที่มีไว้จะพบแต่ความแคล้วคลาดปลอดภัย มีอำนาจบารมีตลอดจนเมตตามหานิยมที่แรงกล้า
จำนวน
สร้างจำกัด เพียง 551 ตัว หมดแล้วหมดเลย ไม่มีการสร้างอีก
พระขุนแผนเป็นพระที่นิยมสร้างกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ
อยู่ที่ผู้สร้างมีเจตนาอย่างไร? เช่น "พระขุน
แผนบ้านกร่าง" จ.สุพรรณบุรี ที่แตกกรุออกมา ตามประวัติผู้สร้างคือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
พระมหากษัตริย์ที่ยิ่ง
ใหญ่ พระขุนแผนที่สร้างเน้นในด้านแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน เพื่อแจกแม่ทัพนายกองที่ออกศึก
ปัจจุบันนี้
เกจิอาจารย์ที่สร้างจะเน้นไปทางด้านเมตตามหานิยม และโชคลาภมากกว่า ซึ่งพระขุนแผน
เสน่ห์เศรษฐีของพระอาจารย์สุพจน์ก็เช่นกัน ท่าเล็งเห็นว่าในสภาวะเศษรฐกิจขณะนี้
ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
หาความสำเร็จในชีวิตสำหรับตัวเองและครอบครัวให้ได้มาซึ่งความอยู่ดีกินดี
ธุรกิจพบแต่ความเจริญ รุ่งเรืองก้าวหน้า
จึงควรหาสิ่งที่เป็นมงคลเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามที่ต้องการ
ขุนแผนเสน่ห์เศรษฐีสร้างขึ้นด้วยผงศักดิ์สิทธิ์
และว่านมหามงคลต่างๆ เช่น ผงจินดามณี (ให้ผลด้าน
โชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์) ผลพุทธคุณ 108 (ให้ผลด้านเมตตามหานิยม) ผงที่พระอาจารย์สุพจน์
เขียนสูตรตามตำรา
วิชาโบราณที่ค้นพบมา แบ้วนำมาลบเอาผง (ให้ผลทั้งเมตตา บารมี และมีโชคลาภรวมทั้งความสำเร็จตามที่ต้องการ)
ผง
มหาลาภ, ว่านเสน่ห์จันทน์, ว่านมหาเศรษฐี, ว่านอุดม, จักรพรรดิว่าน, ว่านเทพรำลึก,
ว่านดอกไม้ทอง และว่านเครือเถาว์
หลง เป็นต้น พระอาจารย์สุพจน์ได้นำเอาผงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดมาตำเคล้าปะปนกับว่านต่างๆ
พร้อมกับปลุกเสกไปด้วย หลัง
จากที่กดพิมพ์เป็นพระขุนแผนมาแล้วได้ทำการเขียนยันต์พร้อมบริกรรมพระคาถาลงในแผ่นเนื้อฝาบาตรและนำมาประกบ
ติดด้านหลังขององค์พระเมื่อได้พระขุนแผนที่สมบูรณ์ พระอาจารย์สุพจน์จึงได้ประกอบพิธีอัญเชิญจิตวิญญาณครูบาอา-
จารย์เทพที่สิงสถิตทั้งแปดทิศและปู่ฤาษีทั้งหมด มาร่วมพิธีปลุกเสกในครั้งนี้
เพื่อให้ได้พระขุนแผนที่มีความขลังและศักดิ์
สิทธิ์ที่สุด
ในอดีต
ผู้เฒ่ามือผู้เป็นอาจารย์ได้เคยบอกไว้ว่า "ถ้าจะให้พระขุนแผนมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์ต้องทำ
การปลุกเสกทั้งกลางวันและกลางคืน" ให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เมื่อได้ยินเสียงหรือต้องมนต์
มีการเคลื่อนไหวมายังลานพิธี
(เหมือนดังเจ้าเงาะในเรื่องสังข์ทองที่ใช้มนต์คาถาทำพิธีเรียกเนื้อ, เรียกปลา,
ตลอดจนสิงห์สาราสัตว์ทั้งหลายให้มาหา)
เช่น ถ้าเป็นเถาวัลย์ก็จะเลื้อยชูยอดมา สัตว์มีปีกพวกนก หรือไก่ก็จะพร้อมกันส่งเสียงร้องแล้วพากันเดินมาที่บริเวณโดยรอบ
พิธี และหยุดนิ่งอยู่บริเวณนั้นโดยไม่เข้ามารบกวน เป็นต้น พระอาจารย์สุพจน์ใช้เวลาในการปลุกเสกทั้งกลางวัน
และกลาง
คืนเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เพื่อให้ไดมาซึ่งพระขุนแผนที่สมบูรณ์ทั้งพิธีและความศักดิ์สิทธิ์
จำนวนสร้างจำกัดเพียง 451 องค์
หมดแล้วหมดเลยไม่มีสร้างอีก
|